ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง อุตสาหกรรมไอที ? ตอนที่ 2 /โดย ลงทุนแมน
“ซิลิคอนแวลลีย์ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นวิธีคิด”
คำกล่าวของ Reid Hoffman ผู้ก่อตั้ง LinkedIn แพลตฟอร์มเครือข่ายธุรกิจในการหางานและผู้ร่วมงาน ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตซิลิคอนแวลลีย์
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในแง่สถานที่ ซิลิคอนแวลลีย์ คือ พื้นที่หุบเขาราว ๆ 1,500 ตารางกิโลเมตร บริเวณรอบอ่าวซานฟรานซิสโก ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
ซิลิคอนแวลลีย์ประกอบไปด้วยเมืองน้อยใหญ่ ที่ล้วนเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของเหล่าบริษัทไอทีชั้นนำระดับโลก โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากคำว่า “ซิลิคอนชิป” ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่เป็นหน่วยความจำของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ส่วนในแง่วิธีคิด มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดปลูกฝังการศึกษาด้านอิเล็กทรอนิกส์ให้งอกงาม ไปพร้อม ๆ กับการพัฒนากระบวนการผลิตนักศึกษาให้เป็นนักธุรกิจ
จนนำมาสู่การก่อตั้งบริษัทไอทีระดับโลกแห่งแรกในซิลิคอนแวลลีย์ คือ Hewlett Packard (HP)
หลังจากนั้น หุบเขาแห่งนี้ก็เบ่งบานไปด้วยบริษัทไอที ดึงดูดนักประดิษฐ์และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีจากทั่วโลก ให้เข้ามาสานฝันให้กลายเป็นความจริง
และเมื่อมี “วิธีคิด” ช่วยส่องสว่าง นวัตกรรมทุกอย่างก็จะมีหนทางไป..
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง อุตสาหกรรมไอที ? ตอนที่ 2
ด้วยอาณาบริเวณกว้างใหญ่รอบอ่าวซานฟรานซิสโก ต้นน้ำแห่งนวัตกรรมของซิลิคอนแวลลีย์จึงไม่ได้มีแค่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเท่านั้น
แต่เหนือขึ้นมาราว 50 กิโลเมตร ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และสร้างนักประดิษฐ์ วิศวกร ไปจนถึงผู้ประกอบการชั้นยอดมากมาย มาประดับวงการไอที
หนึ่งในนั้นคือ Fred Moore ผู้ก่อตั้งสมาคมคอมพิวเตอร์โฮมบรูว์ สมาคมที่เป็นสถานที่นัดพบของผู้คลั่งไคล้ในโลกของเทคโนโลยี เป็นที่แลกเปลี่ยนทางความคิด
โดยความปรารถนาสูงสุดของผู้คนในสมาคมนี้ คือการสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขึ้นมาเอง
ในช่วงปี 1975 ที่มีการก่อตั้งสมาคมแห่งนี้
ความสำเร็จของการประดิษฐ์ “ไมโครโพรเซสเซอร์” ที่ย่อส่วนแผงวงจรรวมจำนวนมากเข้ามาอยู่ด้วยกันในชิปขนาดเล็ก
ทำให้ขนาดของเครื่องคอมพิวเตอร์จากที่มีขนาดใหญ่โตเท่าห้อง มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ ราคาก็ถูกลงเรื่อย ๆ และด้วยหน่วยความจำที่มากขึ้น ความสามารถในการทำงานจึงสูงขึ้นและรวดเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ
Steve Wozniak นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ได้ชักชวนเพื่อนสมัยมัธยมที่ชื่อ Steve Jobs ให้มาเข้าร่วมสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งนี้..
Steve Wozniak เป็นผู้คลั่งไคล้ในวิศวกรรมและมีความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้น เคยทำงานให้กับ Hewlett Packard
ส่วน Steve Jobs เป็นผู้มีหัวการค้า มีนิสัยกล้าคิดกล้าทำ เขาเคยทำงานให้กับบริษัทสร้างวิดีโอเกมชื่อ Atari และเคยทำงานในช่วงฤดูร้อนให้กับ Hewlett Packard ด้วยเช่นกัน
Wozniak ได้นำความรู้และประสบการณ์มาทดลองออกแบบคอมพิวเตอร์ด้วยแนวทางของตัวเอง โดยใช้ชิปเท่าที่จะหาได้ มาประกอบกับคีย์บอร์ด QWERTY และมีจอโทรทัศน์เป็นเครื่องแสดงผลในช่วงแรกเริ่ม
และเมื่อออกมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Jobs ก็เป็นผู้เสนอความคิดให้ลองนำสิ่งประดิษฐ์นี้ออกวางขายในเวลาต่อมา
ผลงานการประดิษฐ์ชิ้นนั้นของ Wozniak ถือเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลก เครื่องคอมพิวเตอร์นี้ถูกตั้งชื่อต่อมาว่า “Apple I”
สิ่งสำคัญไม่แพ้การสนับสนุนจากสถาบันการศึกษาก็คือ “เสรีภาพทางความคิด”
ซิลิคอนแวลลีย์ มีสมาคมมากมายที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนทางความคิด นำเสนอไอเดีย จึงกลายเป็นวัฒนธรรมที่หล่อหลอมให้คนรุ่นใหม่กล้าคิดกล้าทำ และเติบโตไปบนหนทางสร้างสรรค์ที่ตัวเองตั้งใจ
คอมพิวเตอร์ของ Wozniak ก็ถูกนำเสนอแก่สายตาสมาชิกในสมาคมโฮมบรูว์ในช่วงปลายปี 1975 ซึ่งหนึ่งในผู้เข้ามาร่วมชม คือ เจ้าของร้าน The Byte Shop ร้านขายของเบ็ดเตล็ดและอุปกรณ์ไอที
ที่เกิดความประทับใจกับคอมพิวเตอร์ชิ้นนี้มาก จึงได้สั่งซื้อคอมพิวเตอร์นี้ถึง 50 เครื่อง
แล้วก้าวแรกของบริษัท Apple ก็เริ่มต้นขึ้นในเมืองคูเปอร์ติโน ทางตอนใต้ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในอีก 1 ปีถัดมา..
ใครจะไปเชื่อว่า จากบริษัทเล็ก ๆ ที่มีผู้ก่อตั้งเป็นผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยี 2 คน
ในปี 1980 หลังการก่อตั้งเพียง 4 ปี บริษัทสามารถเติบโตจนเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นในฐานะบริษัทมหาชนได้สำเร็จ และได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ในตอนนี้..
เมื่อมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแล้ว อีกหนึ่งก้าวสำคัญของซิลิคอนแวลลีย์ ก็เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970s
นั่นก็คือ จุดเริ่มต้นของ “อินเทอร์เน็ต”
เมื่อบริษัทไอที ชื่อ Xerox ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยในเมืองพาโล อัลโต ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ชื่อว่า Xerox Palo Alto Research Center หรือ Xerox PARC
Xerox PARC ได้เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมต่อ จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ในยุคแรกที่มีชื่อว่า ระบบอีเทอร์เน็ต (Ethernet)
อีเทอร์เน็ต ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1973 โดยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครื่องพิมพ์ ผ่านเครือข่ายบริเวณระยะใกล้ หรือเครือข่าย LAN (Local Area Network)
ต่อมาในปี 1978 Vint Cerf ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ร่วมมือกับ Bob Kahn พัฒนาโพรโทคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
ซึ่งโพรโทคอลที่ว่านี้ คือชุดของขั้นตอนและกฎระเบียบ ทำให้ภายในชุดกฎระเบียบเดียวกัน ทั้ง 2 เครื่องจะสามารถเข้าใจระบบของกันและกัน และสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้
โดยเฉพาะเลข Internet Protocol (IP) ที่เป็นการปูรากฐานให้กับโลกของอินเทอร์เน็ต
อุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะต้องมีเลขนี้ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ บนระบบเครือข่ายรู้จักกัน โดย IP จะระบุว่า เครือข่ายต่าง ๆ ควรเชื่อมโยงกันอย่างไร
เมื่อโลกอินเทอร์เน็ตถูกปูรากฐาน ต่อมาในยุค 1980s ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลให้ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น
Doug Engelbart นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด ได้มาทำงานให้ PARC และได้พัฒนาระบบส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ หรือ Graphic User Interface (GUI)
จากคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ๆ ที่ใช้งานยากและต้องใช้งานผ่านตัวอักษร
ระบบ GUI ได้เข้ามาช่วยเปลี่ยนการใช้งานให้ง่ายขึ้นผ่านทางสัญลักษณ์หรือภาพ เช่น ไอคอน หน้าต่างการใช้งาน เมนู ปุ่มเลือก รวมถึงการพัฒนา “ตัวชี้ตำแหน่ง X-Y” ซึ่งต่อมาก็คือ “เมาส์”
ทั้งระบบ GUI และเมาส์นี่เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Steve Jobs นำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาและเกิดเป็น “Macintosh” ในปี 1984 ซึ่งถือเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรก ๆ ที่มีการออกแบบอย่างเข้าใจผู้ใช้งาน
ในเวลานี้ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
ครัวเรือนชาวอเมริกันที่ครอบครองคอมพิวเตอร์เพิ่มจากร้อยละ 5 ในช่วงต้นทศวรรษ 1980s
มาเป็นร้อยละ 20 ในปี 1989
โลกอินเทอร์เน็ตถูกเชื่อมโยงเข้ากับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเปิดทางให้เกิดการพัฒนา World Wide Web ในช่วงปี 1989 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นเมื่อ นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัย CERN ในสวิตเซอร์แลนด์ ต้องการส่งข้อมูลให้กับเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก
World Wide Web, WWW คือ ระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต จากแหล่งข้อมูลหนึ่ง ไปยังแหล่งข้อมูลที่อยู่ห่างไกลทั่วโลก ให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด
โดยผ่านซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า “เบราว์เซอร์”
แล้ว “สาธารณชน” ในยุค 1990s ก็เข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก!
สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่มีผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตสัดส่วนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ในปี 1996 มีชาวอเมริกันเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูงถึงร้อยละ 16
ในขณะที่หลายประเทศในยุโรปตะวันตกยังเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ถึงร้อยละ 5
การเกิดขึ้นของ World Wide Web ทำให้ย่านซิลิคอนแวลลีย์เริ่มคึกคักไปด้วยบริษัทที่มีโมเดลทำรายได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ที่ถูกมองว่าเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต ขึ้นมามากมาย
และสิ่งสำคัญที่สุด ที่มีมาตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทไอทีในยุค 1950s คือ ธุรกิจเงินร่วมลงทุน หรือ Venture Capital ดึงดูดให้บริษัทสตาร์ตอัปมากมาย หลั่งไหลเข้ามาใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบเหล่านี้
นักศึกษาปริญญาเอกสาขาคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 2 คน
คือ Larry Page และ Sergey Brin ได้ร่วมกันพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้ค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตในรูปแบบของ Search Engine
โดยใช้การทำงานของ Robot ที่ชื่อว่า Spider ซึ่งเป็นตัวสำรวจข้อมูล เมื่อพบข้อมูลที่ต้องการก็จะส่งข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทาง
ปี 1998 ทั้ง 2 คน ได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Google” ในเมืองเมนโลพาร์ก และ IPO เข้าสู่ตลาดหุ้นในอีก 5 ปีถัดมา
แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับบริษัท Apple เพราะอีก 20 ปีต่อมา บริษัท Google ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Alphabet ก็ได้กลายมาเป็น บริษัทที่มีมูลค่าเป็นอันดับ 5 ของโลก..
แม้ความรุ่งเรืองจากการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต จะพาซิลิคอนแวลลีย์เข้าสู่การเติบโตที่รวดเร็วเกินไปจนเกิดวิกฤติฟองสบู่ดอตคอมในช่วงก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 จนสร้างความเสียหายหลายบริษัทและนักลงทุนในตลาดหุ้นจำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ตาม วิกฤติครั้งนั้น ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการพัฒนาของเทคโนโลยี ณ หุบเขาแห่งนี้ได้
หลังจากวิกฤติไม่นาน ก็มีการพัฒนาระบบ IPv6 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลน IP ช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น นอกเหนือจากเครื่องคอมพิวเตอร์
ซึ่งปูทางมาถึงการเกิดขึ้นของ “สมาร์ตโฟน” โทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถในการใช้งานมัลติมีเดีย และเชื่อมต่อเข้ากับโลกอินเทอร์เน็ตอย่างไร้รอยต่อ ด้วยระบบ IPv6
หนึ่งในสมาร์ตโฟนที่โดดเด่นที่สุดก็คือ iPhone จากบริษัท Apple ที่เปิดตัวในปี 2007
เช่นเดียวกับ Google ที่ได้เข้าซื้อบริษัท Android และเปิดตัวโทรศัพท์แอนดรอยด์ในปี 2008
และทั้งสองก็แข่งขันกันพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง
เมื่อผู้คนเริ่มใช้สมาร์ตโฟนมากขึ้น นำมาสู่การเกิดขึ้นของ “Application” ซอฟต์แวร์ที่ใช้เพื่อช่วยการทำงานต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน
โดยแอปพลิเคชัน จะมีส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface) หรือ UI เพื่อเป็นตัวกลางในการใช้งานให้ราบรื่น
และด้วยความที่ซิลิคอนแวลลีย์เต็มไปด้วย Venture Capital ที่คอยให้เงินทุนสนับสนุนไอเดียล้ำ ๆ
หุบเขาแห่งนี้ จึงยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดบริษัทใหม่มากมาย โดยเฉพาะบริษัทที่จะมาสร้างสรรค์เครือข่ายสังคมออนไลน์..
ปี 2003 LinkedIn เกิดแพลตฟอร์มเครือข่ายธุรกิจในการหางานและผู้ร่วมงาน
ก่อตั้งโดย Reid Garrett Hoffman วิศวกรที่เคยทำงานให้กับ Apple
ปี 2004 เกิด Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคนทั่วโลก
ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการคิดค้นวิธีการเชื่อมผู้คนในรูปแบบใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ของ Mark Zuckerberg พร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน
ปี 2006 หลังออกจากมหาวิทยาลัย Jack Dorsey พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน
ได้ก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภท Microblog ที่แสดงข้อความสั้น ๆ ความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร
โดยคิดค้นชื่อที่มาจากคำว่า Tweet ซึ่งแปลว่าเสียงนกร้อง Logo ของบริษัทจึงเป็นรูปนก และบริษัทนี้มีชื่อว่า Twitter
ปี 2009 เกิด WhatsApp แอปพลิเคชันในการติดต่อสื่อสารด้วยข้อความ ก่อตั้งโดย Jan Koum โปรแกรมเมอร์ที่เห็นประโยชน์จากการเกิดขึ้นของสมาร์ตโฟน
บริษัททั้งหมดล้วนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์
หุบเขาแห่งเทคโนโลยีแห่งนี้ยังคงดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เข้าไปเติมเต็มความฝัน เพื่อสร้างสรรค์อุปกรณ์ไอทีที่ไฮเทคขึ้นเรื่อย ๆ
และเปลี่ยนแปลงมาสู่โลกของเครือข่ายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเชื่อมต่อกันและกัน หรือเรียกว่า “Internet of Things” ที่จะเข้ามามีบทบาทในทุกย่างก้าวของชีวิต
ความสำเร็จของอุตสาหกรรมไอทีที่ทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นมหาอำนาจของโลก ล้วนมีที่มาจากหลายปัจจัย
ทั้งระบบการศึกษาที่เข้มแข็ง ที่สร้างองค์ความรู้และช่วยวางรากฐานสู่โลกธุรกิจ
วัฒนธรรมแห่งเสรีภาพ ที่สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่กล้าคิดกล้าทำเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
แหล่งเงินทุน ที่เข้าถึงง่ายและมีหลากหลายรูปแบบ
และเครือข่ายผู้คิดค้นนวัตกรรมที่เติมเต็มความฝันต่อยอดกันไปไม่รู้จบ
หากถามว่า อิทธิพลทางเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาจะคงอยู่อีกนานแค่ไหน ?
เมื่อไรที่มนุษย์จะหยุดฝัน เมื่อนั้นอาจเป็นคำตอบ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-มิเชลล์ ควินน์, เมื่อซิลิคอนแวลลีย์เติบใหญ่ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2562
-https://www.parc.com/about-parc/parc-history/
-https://www.internetsociety.org/wp-content/uploads/2017/09/ISOC-History-of-the-Internet_1997.pdf
-https://searchnetworking.techtarget.com/definition/TCP-IP
-https://www.lifewire.com/transmission-control-protocol-and-internet-protocol-816255
-https://tradingeconomics.com/united-states/personal-computers-per-100-people-wb-data.html
-https://www.businessinsider.com.au/highest-valued-public-companies-apple-aramco-biggest-market-cap-2020-1
-https://www.forbes.com/profile/reid-hoffman/#5f276ca61849
-http://startitup.in.th/the-rags-to-rich-jan-koum-whatsapp-co-founder-startup-story/
-https://www.set.or.th/set/enterprise/html.do?name=vc
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「local user คือ」的推薦目錄:
- 關於local user คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於local user คือ 在 คอมคร้าบ Facebook 的精選貼文
- 關於local user คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於local user คือ 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於local user คือ 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於local user คือ 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於local user คือ 在 วิธีสร้าง Local User (admin) สำรองบน Windows 11 - YouTube 的評價
- 關於local user คือ 在 สอน Windows 10: การสร้างบัญชีผู้ใช้ local user account (create ... 的評價
- 關於local user คือ 在 วิธีสร้าง User Account Windows 10 เป็นแบบ Local ... - Facebook 的評價
- 關於local user คือ 在 เปิด ยูสเซอร์เทพเอเชียฟรีสปิน V4.6.12 的評價
- 關於local user คือ 在 NodeJS - What does "socket hang up" actually mean? 的評價
local user คือ 在 คอมคร้าบ Facebook 的精選貼文
🐱💻 ไทยรัฐโดนแฮก เปลี่ยนชื่อคลิปโปรโมทเหรียญคริปโท
.
ช่วงนี้เรียกได้ว่าหลายช่องบน YouTube ตกเป็นเป้าหมายของพวกแฮกเกอร์จริงๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เองช่อง AMARINTV ก็เพิ่งจะโดนไป ล่าสุดช่อง Thairath Online ก็โดนแฮกด้วย ซึ่งทางไทยรัฐเองก็ได้ออกมาแถลงข่าวแล้วเมื่อเช้านี้ ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
.
"เมื่อเวลาประมาณ 02.50 น. ของวันที่ 9 มิถุนายน 2564 และ เวลา 04.00 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2564 พบว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีแฮกระบบของ YouTube แล้วเจาะระบบเข้ามาพยายามเข้ายึดช่อง YouTube ของไทยรัฐ โดยเปลี่ยนชื่อช่อง ภาพโปรไฟล์ แก้ไข และทำลายข้อมูลคลิปวิดีโอภายในช่อง และเผยแพร่วิดีโอที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับไทยรัฐออนไลน์"
.
🧶 ในเบื้องต้นตอนนี้ทางช่อง Thairath Online บน YouTube กลับมาใช้งานได้ปกติแล้ว แต่ยังเหลือชื่อคลิปที่ยังถูกเปลี่ยนเป็นโปรโมทเหรียญคริปโทอยู่ ซึ่งเชื่อว่าเร็วๆ นี้ก็น่าจะแก้ไขได้เป็นปกติครับ
.
ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/2112487?
https://www.youtube.com/user/thairathonline
.
ป.ล. สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยเราป้องกันการโดนแฮก คือ เราต้องเปิดรหัส 2FA ทุกบัญชี ทุกอีเมล ที่สามารถเข้าถึงแชแนลเราได้ ส่วนตัวทีมงานก็เคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน คือ ตัวเจ้าของช่องใส่ 2FA แล้วไม่มีปัญหา แต่พนักงานตัดต่อที่เข้าถึงแชแนลได้ ไม่ได้เปิด 2FA ไว้ ทำให้หากแฮกเกอร์รู้รหัส email พนักงานคนนั้น ก็สามารถล็อคอินเข้าได้ทันที
.
รวมถึงเราไม่คลิกลิ้งก์มั่วๆ ซั่วๆ แบบดูคลิปหลุด แจกเงินฟรี กู้ง่ายฝากถอนโอนไวบลาๆ พวกนี้หลอกลวงทั้งนั้นครับ (ดีไม่ดีกดไปโดนสมัคร SMS กินตังค์อัตโนมัติอีก !!!)
-------------------------------------------------
ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
YouTube : https://www.youtube.com/c/comcraftds
กรุ๊ป FB : https://web.facebook.com/groups/25947512441121807
local user คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
สรุป แนวคิดอนาคตแพลตฟอร์มไทย จากคุณยอด CEO ของ LINE MAN Wongnai
เมื่อคืนที่ผ่านมา ลงทุนแมนมีโอกาสได้เข้าไปฟังเรื่องราวน่าสนใจใน Clubhouse
ในห้องที่มีการพูดคุยถึงประเด็น อนาคตของแพลตฟอร์มไทย “LINE MAN Wongnai”
โดยมี คุณยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ LINE MAN Wongnai เป็นผู้ฉายภาพให้ผู้ฟังกว่า 1,000 คนได้ฟังกันแบบสด ๆ
เรื่องราวนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
“หลังจากทำงานมากว่า 5 เดือน ผลลัพธ์ดีกว่าที่เราคิดไว้”
และวิกฤติโควิด 19 เป็นแรงกระตุ้นสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจ Food Delivery เติบโตอย่างก้าวกระโดด
นี่คือประโยคแรก ๆ ที่ คุณยอด CEO ของ LINE MAN Wongnai ได้เล่าขึ้นมา
เมื่อถามคุณยอดว่า ตั้งแต่เกิดการควบรวมกิจการระหว่าง Wongnai และ LINE MAN อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนไป ?
คุณยอดตอบว่า เมื่อ 2 องค์กรควบรวมกิจการเป็นหนึ่งเดียว สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงจะปรับจูนวัฒนธรรมของสององค์กรเข้าด้วยกันได้
เป้าหมายของเรากับทีมงานคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีม
โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจในทีมงานไลน์แมนว่าเป็นอย่างไร คิดเห็นอย่างไร
และเราต้องแสดงให้เห็นว่า ตัวเรามีมาตรฐานในการตัดสินใจอย่างไร แสดงความเป็นตัวตน
แสดงให้เห็น “common enemy” คือมองว่า ศัตรูอยู่ข้างนอก ไม่ใช่ภายในองค์กร
เมื่อภายในองค์กรเกิดความเข้มแข็งแล้ว การรับมือกับความท้าทายภายนอก ก็ไม่ใช่เรื่องยาก..
ในตอนนี้ธุรกิจ Food Delivery ก็ได้เติบโตขึ้นมาก
ยอดออร์เดอร์ของ LINE MAN ในปี 2563 สูงขึ้นกว่า 5 เท่า จากปีก่อนหน้า
POS (Point of sale) หรือจุดชำระเงินหน้าร้าน โตขึ้น 3.5 - 4 เท่า
รวมทั้ง ยังสามารถขยายพื้นที่บริการจนครอบคลุม 36 จังหวัด จากเดิมมีเพียง 7 จังหวัด
เรียกได้ว่า LINE MAN Wongnai เป็นอีกหนึ่งผู้ได้รับผลประโยชน์จากโควิด 19
แต่.. ก็ต้องยอมรับว่าในฝั่ง media นั้นอยู่ในภาวะชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ในวันที่สนาม Delivey กำลังดุเดือด อะไรคือจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าเลือก LINE MAN Wongnai ?
คุณยอดบอกว่า เราให้ความสำคัญเรื่อง Choice (ทางเลือก) กับร้านอาหาร
มีให้เลือกทั้งแบบ GP หรือ Non-GP ก็ได้ ถ้าร้านอาหารมีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว
ก็สามารถเลือกแบบ Non-GP ได้
สำหรับผู้บริโภค เรามีร้านค้ากว่า 300,000 ร้าน ตั้งแต่ถูกสุดไปจนถึงแพงสุด ให้เลือกทาน
รวมทั้งการมี “local mindset” หรือออกแบบบริการให้เหมาะกับคนในพื้นที่
ไม่ใช่แค่ระดับจังหวัด แต่จะลงไปให้ถึงระดับอำเภอ
อีกทั้งมีการใช้ Ecosystem ของ LINE ให้เป็นประโยชน์
เช่น Mini-app สั่งผ่านไลน์ได้เลย ซึ่งอยู่ในส่วนของ Wallet ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องโหลดแอปเพื่อมาสั่ง
ส่วน Restaurant solution (ระบบจัดการสำหรับร้านอาหาร) เราจะใช้ Point of sale หรือจุดชำระเงินหน้าร้านให้เป็นประโยชน์ในการดูแลร้านอาหาร เชื่อมต่อออนไลน์ ออฟไลน์ รองรับทุกการบริการให้ครบ จบในตัว
ส่วนในเรื่องของคู่แข่งและขนาดตลาด Food Delivery
ก็ยังมีโอกาสขยายตัวอีกเยอะ เพราะยังมีคนที่ยังไม่ได้ใช้งานอยู่อีกมาก
เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า ตอนนี้เราเดินอยู่ครึ่งทางของเกม
เพราะตลาด Food Delivery เริ่มจริงจังในปี 2018 ซึ่งก็ผ่านมาเพียง 4 ปี
ยังมีโอกาสที่ Food Delivery จะโตต่อไปได้
เมื่อถามว่า อะไรคือเป้าหมายสำคัญของ LINE MAN Wongnai ?
คุณยอดตอบว่า เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน ว่าเราทำสิ่งนี้ไป เพื่ออะไร
ซึ่งตรงนี้เรารู้ว่า เราทำไปเพื่อให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ร้านอาหารค้าขายได้ คนขับรถมีรายได้
คนใช้งานได้มีช่องทางสะดวกในการสั่งอาหารทานได้
มากกว่านั้น คือเราต้องการจะเป็น “E-Commerce Platform for Services”
หมายถึงรองรับรูปแบบบริการหลากหลายในอนาคต ไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร
แต่ยังรวมถึง การขนส่งคน, การขนส่งสิ่งของ, การให้บริการสปาที่บ้าน
สิ่งสำคัญคือ การสร้างทีมงานที่เป็นคนไทย เพื่อทำบริการให้คนไทยอย่างแท้จริง
รายได้หลักตอนนี้มาจากส่วนที่เป็นดิลิเวอรีเป็นส่วนใหญ่
และถือว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงที่ดีมากขึ้น เรียกได้ว่าเข้าใกล้จุดคุ้มทุนมากขึ้น
เมื่อถามคุณยอดว่า แผนธุรกิจในปี 2564 นี้ และในอนาคต มีอะไรบ้าง ?
คุณยอดตอบว่า เราจะเปิดบริการดิลิเวอรี LINE MAN Wongnai ให้ครบ 77 จังหวัดทั่วไทย และจะเริ่มดำเนินกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น
เริ่มจากแคมเปญ “LINE MAN Food Hero” ซึ่งเป็นแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่ที่สุด
ที่ LINE MAN Wongnai เคยทำมา
โดยไฮไลต์ของแคมเปญ ก็คือ “นายฮ้อย-ล่ามทรง” นักรีวิวอาหาร
ในฐานะ Eating Master ที่จะมาเป็น “Food Hero” หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ LINE MAN Wongnai ที่จะเป็นตัวแทนของคนธรรมดา ๆ เข้าถึงได้ง่ายในสายตาผู้บริโภค
ด้านแผนระยะยาวของ LINE MAN Wongnai
คือ “Help Thai People Live Better” หรือก็คือ ช่วยให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น
โดยอาศัยจุดเด่นเรื่อง Ecosystem เต็มที่ครบวงจร
ใช้จุดแข็งที่เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกันกับ LINE
เชื่อมต่อลูกค้า, คนทำงาน และธุรกิจท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
แล้วเส้นชัยวันนี้ ของ LINE MAN Wongnai อาจไม่ใช่ ยูนิคอร์น อีกต่อไปแล้วหรือไม่ ?
คุณยอดยอมรับว่า วันนี้เราเข้าใกล้ ยูนิคอร์น มากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วเราไม่ค่อยเห็นคนที่เป็น ยูนิคอร์น ที่พูดถึงยูนิคอร์น กันสักเท่าไร
เพราะการจะเติบโตไปให้ไกลหรือยั่งยืน ไม่ได้มีแค่ประเด็นนี้เท่านั้น
5 เดือนที่แล้ว เราเป็นสตาร์ตอัป และมีเป้าหมายจะเป็นยูนิคอร์น
ผ่านมาวันนี้ เราโตขึ้น 5 เท่าตัว และยูนิคอร์น อาจไม่ใช่เป้าหมายของเราที่ต้องการอีกแล้ว
เพราะเราต้องการสร้างคุณค่าให้กับสังคม
มากกว่าแค่การสร้างตัวเลขที่จะเป็นยูนิคอร์น..
แรงผลักดันสำคัญในตอนนี้ คือทำยังไงให้คนขับรถมีรายได้มากขึ้น
คนขายอาหาร สามารถขายอาหารได้มากขึ้น
รวมทั้ง ผู้ใช้งาน ที่อยากจะกลับมาใช้งานซ้ำไปเรื่อย ๆ
ปัจจัยเชื่อมโยงเหล่านี้ คือแรงผลักดันสำคัญในวันนี้
ที่ทำให้เราอยากจะท้าทายความสำเร็จต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคตข้างหน้า
การจะไปให้ถึงเป้าหมายใหญ่ได้ ก็ต้องฝึกการมองไปให้ไกล
แต่แน่นอนว่า ก็ยังมีทีมงานบางส่วนที่ต้องวางเป้าหมายในระยะสั้น ๆ
เพราะการทำงานต้องถูกวัดด้วย KPI ตัวเลขต่าง ๆ อีกมากมาย
แต่ในฐานะ CEO ก็ต้องฝึกให้ทุกคนมองเป้าหมายระยะยาว
ควบคู่ไปกับการทำเป้าหมายระยะสั้นให้ได้ด้วยเหมือนกัน การทำธุรกิจถึงจะไปต่อได้อีกยาว
เมื่อถามคุณยอดว่า ความเป็นผู้นำจากวันแรกถึงวันนี้ มีอะไรที่เหมือนหรือต่างจากเดิม ?
คุณยอดให้คำตอบว่า บริษัทขนาดเล็ก ที่มีพนักงาน 10 - 30 คน เราจะเน้นไปที่เรื่องของ Hard-Skills
อย่างเช่น ทักษะเฉพาะในเรื่องของการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์
เมื่อถึงช่วงที่บริษัทมีขนาดกลาง ควรเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรมากขึ้น
โดยมองหาทีมงานที่มีความเหมาะสมกับองค์กร
และปัจจุบัน ในวันที่กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีแถวหน้าของไทย
มีพนักงานกว่า 700 - 800 คน แน่นอนว่าหลักในการบริหารจัดการต้องเปลี่ยน
ต้องใช้คนอื่น ๆ มาทำงานแทนตัวเองมากขึ้น ต้องหาวิธีในการบริหารจัดการคนเก่ง ๆ
หรือหาวิธีที่จะดึงคนเก่ง ๆ ให้เข้ามาอยู่ในบริษัท
เพื่อให้เขาเข้าไปดูแลทีมงานในส่วนอื่น ๆ ได้อย่างใกล้ชิด
แต่ส่วนที่ยังคงเหมือนเดิมก็คือ
1. ความอึด (Grit)
ไม่ว่าบริษัทจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ เราที่เป็นผู้นำก็จะต้องทำงานให้หนักและต้องไม่ยอมแพ้
แต่ก็จะต้องหาจุดสมดุลให้ตัวเองได้พัก เพราะการพักมันจะทำให้เรากลับมามีแรงมากขึ้น
2. การบอกเล่าเป้าหมายของเรา (Storytelling)
เราต้องบอกทุกคนว่าสิ่งที่เราจะไปถึงคืออะไร ทั้งตอนที่อยู่ในช่วงกำลังจะจ้างพนักงานใหม่
ตอนบริหารจัดการทีม เราต้องบอกพวกเขาให้ชัดว่าเรากำลังจะไปในทิศทางไหน
ในอนาคต คุณยอด ก็ได้วางอีกหนึ่งเป้าหมาย คือ ต้องการทำให้พนักงานมีความมั่นคงมากขึ้น
เมื่อพนักงานมีความมั่นคงในชีวิต อัตราการลาออกก็จะน้อยลง บริษัทก็จะไปถึงเป้าหมายได้เร็ว
เมื่อถามคุณยอดว่า ถ้าอยากเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในแพลตฟอร์มของ LINE MAN Wongnai ต้องมีเทคนิคอะไร ?
คุณยอดให้คำแนะนำว่า
LINE MAN Wongnai ก็เป็นเหมือนกับ Marketplace
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าของเราโดดเด่นในตลาด
จะต้องให้ความคุ้มค่า ทั้งคุณภาพสินค้าและราคา
และถ้าหากว่าเรามั่นใจในคุณภาพของสินค้าแล้ว
สามารถติดต่อทีมงานของ LINE MAN Wongnai ได้ทันที
ว่ากำลังจัดแคมเปญอะไรบ้าง หรือมีอะไรที่ Exclusive หรือพิเศษ ที่จะช่วยดึงลูกค้าเข้ามามากขึ้น
ซึ่งการที่ร้านค้าเข้าร่วมในทุก ๆ แคมเปญ
ก็จะเป็นการเปิดประตู ให้ลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักแบรนด์มาก่อน
ได้เข้ามาทำความรู้จักแบรนด์
ในครั้งแรกลูกค้าอาจจะเข้ามาซื้อเพราะโปรโมชัน
แต่ถ้าเขารู้สึกว่าสินค้าของคุณคุ้มค่า มีคุณภาพ ครั้งต่อไปเขาก็จะมาซื้อกับคุณอีก
การเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ จึงถือเป็นการลงทุนให้ได้ลูกค้าประจำในอนาคต
อนาคตของสตาร์ตอัป จะเป็นอย่างไร หลังจากจบโควิด 19
และในสนามดิลิเวอรี อะไรจะเป็นตัววัดผู้ชนะ ?
คุณยอดแชร์มุมมองว่า
ในวันนี้สตาร์ตอัปแข่งอยู่บนสนามระดับโลก ตั้งแต่วินาทีแรกที่ตั้งบริษัท
ดังนั้น มันยากมากที่จะแข่งขันสู้เจ้าอื่น ๆ ได้
นอกเสียจากว่าเราจะเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก ๆ
เพราะถ้าเป็นแพลตฟอร์มอย่าง Social Media ไม่มีจุดแข็งอื่น ๆ ก็จะแข่งขันกับเจ้าใหญ่ ๆ
ที่อยู่ในประเทศไทยมานานแล้วได้ยาก
และสำหรับในสนาม Food Delivery..
สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดผู้ชนะในมุมมองของคุณยอดก็คือ
คนที่สามารถทำให้ ผู้ใช้งาน (User), ร้านอาหาร-ร้านค้า, พาร์ตเนอร์ เช่น คนขับ
ได้ประโยชน์และได้รับความสะดวกมากที่สุด ไปพร้อม ๆ กัน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการทำธุรกิจ เราเดินไปถูกหรือผิดทาง ?
ในมุมมองของคุณยอด การทำสตาร์ตอัป เราต้องมีความเชื่อมั่น มีความดื้อรั้น
ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะถ้าไม่มีความเชื่อมั่น เราก็จะยอมแพ้ง่ายเกินไป
แต่ในความมั่นใจและความดื้อรั้นเหล่านี้
ต้องอยู่บนพื้นฐานของไอเดียที่ดี และการเล่าเรื่องให้เป็น
และวิธีที่จะดูว่าไอเดียเราเวิร์กหรือไม่นั้น
ให้ดูว่ามีเพื่อนหรือทีมงานเข้ามาร่วมทีมกับเรามากแค่ไหน
เพราะไอเดียที่ดี จะซื้อใจคนได้
และต้องดูตลาดด้วยว่าใหญ่เพียงพอหรือมีโอกาสเติบโตหรือไม่ ?
หากเรามีแต่ความอึด แต่ไปอยู่ในตลาดที่ผิด ก็ไม่เติบโต
สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องก็คือ การฝึกมองไปข้างหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น
คุณยอดยอมรับว่า เราไม่สามารถคาดการณ์ทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ
แต่เราต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลายให้ได้
เช่นเดียวกับ LINE MAN Wongnai ที่ต้องการทำให้ธุรกิจมีความหลากหลาย
และการร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ LINE ทำให้ Wongnai ไม่ถูกจำกัดอยู่กับธุรกิจมีเดีย
แต่มีฟูดดิลิเวอรี มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หรือแม้แต่สปาความงาม ที่แข็งแกร่งมากขึ้น
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมากระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เราก็จะรับมือกับสถานการณ์ได้ดี
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำสตาร์ตอัป หรือคนทำธุรกิจ SMEs
เราทุกคนต้องมองอนาคต และการทำให้ธุรกิจมีความหลากหลาย เป็นเรื่องสำคัญ
และคุณยอดก็ได้ปิดท้ายจุดยืนของ LINE MAN Wongnai ไว้ว่า..
LINE MAN Wongnai จะเป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทย
ที่จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตของคนไทยทุกคนดีขึ้น
ออกแบบนวัตกรรมเพื่อคนไทย พร้อมกับ Local Mindset
และเคารพทุกความคิดเห็นจากทั้งร้านอาหาร คนขับ และผู้ใช้งานทุกคน
เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจคนไทย และตอบโจทย์คนไทยได้มากที่สุด..
local user คือ 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
local user คือ 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
local user คือ 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
local user คือ 在 สอน Windows 10: การสร้างบัญชีผู้ใช้ local user account (create ... 的推薦與評價
เชิญสมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้ได้ที่ ▻ https://www.youtube.com/subscription_center?add_user=prasertcbs สอน Windows 10 ... ... <看更多>
local user คือ 在 วิธีสร้าง User Account Windows 10 เป็นแบบ Local ... - Facebook 的推薦與評價
วิธีสร้าง User Account Windows 10 เป็นแบบ Local account ตามคลิบจะแนะนำ 2 แบบ คือ 1. สร้างผ่าน Windows Settings และ 2. ผ่าน Computer Management... ... <看更多>
local user คือ 在 วิธีสร้าง Local User (admin) สำรองบน Windows 11 - YouTube 的推薦與評價
ปกติ Windows ของเราจะให้ Local User มาหนึ่งบัญชีเพื่อใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครอยากสร้างเพิ่มอีกหนึ่งตัวเพื่อสำรองไว้ใช้งาน วันนี้เรามีวิธีมากบอก ▻ อ่านทิปส์ และ ทริคของ ... ... <看更多>